อาร์เจนตินา ผ่านเข้ารอบตัดเชือกไปพบกับ โครเอเชีย ได้สำเร็จหลังดวลจุดโทษชนะ เนเธอร์แลนด์ ไปอย่างบีบหัวใจ โดยที่ในเวลา 120 นาทีเสมอกัน 2-2
ฟุตบอลโลก 2022
รอบก่อนรองชนะเลิศ
เนเธอร์แลนด์ 2 – อาร์เจนตินา 2
(ต่อเวลาเสมอกัน 2-2, อาร์เจนฯ ชนะจุดโทษ 4-3)
สนาม : ลูซาอิล ไอโคนิค สเตเดี้ยม, ลูซาอิล
คู่ที่สองของรอบก่อนรองชนะเลิศ เนเธอร์แลนด์ ส่ง โคดี้ กัคโป ประสานงานกับ เมมฟิส เดอปาย ในแนวรุก ส่วน อาร์เจนตินา นำมาโดย ลิโอเนล เมสซี่ และ ฮูเลียน อัลวาเรซ
เริ่มเกมมาทัพฟ้าขาวเป็นฝ่ายต่อบอลได้ต่อเนื่องมากกว่า แต่จังหวะลุ้นประตูก็ยังไม่มี ขณะที่ เนเธอร์แลนด์ ค่อยๆ จับจังหวะการเล่นก่อนกลับมาครองบอลได้สูสีกันในช่วงยี่สิบนาทีแรก
อาร์เจนตินา มีโอกาสลุ้นในนาที 22 เมื่อ ลิโอเนล เมสซี่ ได้จังหวะพาบอลลากถึงหน้าเขตโทษก่อนซัดด้วยซ้าย แต่บอลไม่โค้งทำให้ลอยหลุดกรอบออกหลังไป
เนเธอร์แลนด์ มีโอกาสบ้างในนาที 24 จากการยิงหน้าเขตโทษของ สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ แต่ก็ซัดด้วยซ้ายไม่เข้ากรอบ
ทัพฟ้าขาวตอบโต้คืนในอีก 8 นาทีถัดมา อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ จ่ายบอลจากขวาให้ โรดริโก้ เด ปอล ตวัดยิงหน้าเขตโทษ แต่บอลเบาไปทำให้ไม่ผ่านมือ อันดรีส์ น็อพเพิร์ท
อาร์เจนตินา ออกนำ 1-0 จนได้ในอีก 2 นาทีถัดมา เมสซี่ ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนโยกหาช่องจ่ายอย่างเหนือชั้นให้ นาอวล โมลีน่า เกี่ยวซ้ายหนีแนวรับดัตตช์ก่อนจิ้มด้วยขวาส่งบอลเข้าเสาไกลสำเร็จ
ท้ายครึ่งแรกเป็นอาร์เจนฯ ที่หาโอกาสจบได้อีก ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ จ่ายบอลให้ เมสซี่ โยกหนี นาธาน อาเก้ ก่อนยิงด้วยขวาข้างไม่ถนัด แต่บอลไม่แรงมาก อันดรีส์ น็อพเพิร์ท จึงเซฟเอาไว้ได้ ทำให้จบครึ่งแรก อาร์เจนฯ นำอยู่ 1-0
ครึ่งหลังทัพกังหันปรับแท็กติกทันทีส่ง ธูน คุปไมเนอร์ส และ สตีเฟ่น เบิร์กเฮาส์ ลงแทน มาร์เท่น เดอ รอน กับ สตีเฟ่น เบิร์กไวน์
นาที 63 เป็น อาร์เจนตินา ที่หาโอกาสได้อีกครั้งจากฟรีคิกที่ เมสซี่ โดน ฟาน ไดค์ ทำฟาวล์ และเป็น เมสซี่ รับหน้าที่ปั่นข้ามกำแพง ทว่าบอลเฉียดตาข่ายหลังคานนิดเดียว
อาร์เจนตินา หนีเป็น 2-0 จากจุดโทษในนาที 73 มาร์กอส อากุนญ่า โดน เดนเซล ดุมฟรีส์ ทำฟาวล์ในเขตโทษก่อนเป็น ลิโอเนล เมสซี่ สังหารเข้าไปไม่พลาด อันดรีส์ น็อพเพิร์ท ขยับไปผิดทางจึงไม่สามารถเซฟได้
ท้ายเกมนาที 84 เนเธอร์แลนด์ ตีไข่แตกได้สำเร็จจากลูกเปิดทางฝั่งขวาของ สตีเฟ่น เบิร์กเฮาส์ ที่ไปถึง เวาท์ เว็กฮอร์สต์ ขึ้นโขกเสาแรกส่งบอลตุงตาข่ายสวยงาม ทำให้สกอร์กลับมาเป็น 2-1
ทัพกังหันลุยหนักเพื่อตีเสมอให้ได้ และมาสำเร็จเอาในนาที 11 ของการทดเจ็บจากฟรีคิกลูกสูตรที่ สตีเฟ่น เบิร์กเฮาส์ จ่ายให้ เวาท์ เว็กฮอร์สต์ จับขวาแล้วตวัดยิงด้วยซ้ายเข้าไปสำเร็จ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ พยายามบังแต่สู้เหลี่ยมความใหญ่ไม่ได้ ทำให้จบเกมเสมอกัน 1-1
ช่วงต่อเวลา 15 นาทีแรกของการต่อเวลา ทั้งสองทีมเล่นกันอย่างระมัดระวังทำให้ไม่มีโอกาสลุ้นยิงประตูกันเลย โดยจังหวะลุ้นครั้งแรกเกิดขึ้นในนาที 110 จากฟรีคิกฝั่งขวาที่ เมสซี่ เล่นกันเพื่อนร่วมทีมก่อนลากมาซัดหน้าเขตโทษ แต่บอลโค้งไม่พอจึงลอยออกหลังไป
ฟ้าขาวมีโอกาสอีกครั้งในนาที 114 เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ โยกหาจังหวะเปิดจากขวาให้ เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ กดด้วยขวาเน้นๆ ในเขตโทษ ทว่าไปติดบล็อก ฟาน ไดค์ ออกหลังหวุดหวิด
ช่วงท้ายยังเป็นอาร์เจนฯ ที่มีโอกาสสองครั้งเน้นๆ จาก เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ ที่หลุดกรอบ และ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ที่ชนเสาอย่างจัง ทำให้ครบ 120 นาที ต้องตัดสินหาทีมเข้ารอบด้วยการดวลจุดโทษ
ในช่วงการดวลจุดโทษ อาร์เจนตินา ยิงได้แม่นยำกว่าเอาชนะด้วยสกอร์ 4-3 โดยสองคนที่พลาดของทัพกังหันคือ ฟาน ไดค์ กับ เบิร์กเฮาส์ ทำให้ทัพฟ้าขาวผ่านเข้ารอบตัดเชือกไปพบ โครเอเชีย ในวันอังคารที่ 13 ธันวาคม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เนเธอร์แลนด์ : อันดรีส์ น็อพเพิร์ท – ยูร์เรียน ทิมเบอร์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, นาธาน อาเก้ – เดนเซล ดุมฟรีส์, มาร์เท่น เดอ รอน, เฟรงกี้ เดอ ย็อง, ดาเล่ย์ บลินด์ – โคดี้ กัคโป – เมมฟิส เดอปาย, สตีเฟ่น เบิร์กไวน์
อาร์เจนตินา : เอมิเลียโน่ มาร์ตีเนซ – นาอวล โมลีน่า, คริสเตียน โรเมโร่, นิโกลัส โอตาเมนดี้, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, มาร์กอส อากุนญ่า – โรดริโก้ เด ปอล, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ – ลิโอเนล เมสซี่, ฮูเลียน อัลวาเรซ
ผู้ตัดสิน : อันโตนิโอ มิเกล มาเตว ลาโอซ (สเปน)
